Q3 ... How to design and develop the WBI – WBL?
WBI
การออกแบบและการพัฒนา Web Based Instruction (WBI) หรือ การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บนั้น ควรจัดการเรียนการสอนโดยแบ่งเนื้อหาตามหน่วยการเรียนรู้ให้ครอบคลุมเนื้อหาตามหลักสูตร แล้วจัดแบ่งเนื้อหาของบทเรียนเป็นส่วนๆ ตามลำดับ สามารถให้ผู้เรียนทบทวนเนื้อหาหรือ ฝึกทำกิจกรรมต่างๆ โดยสร้างแรงจูงใจแก่ผู้เรียน บอกให้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ การเชื่อมโยงความรู้เก่าและความรู้ใหม่ การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน การให้แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งทำให้ผู้สอนสามารถทราบถึงความเข้าใจของผู้เรียนและสามารถให้คำแนะนำเพิ่มเติมได้ โดยอาจมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอน ดังนี้
- รูปแบบการเผยแพร่ : การจัดเนื้อหาต่างๆ ลงในเว็บไซต์และจัดเนื้อหาเป็นหมวดหมู่ โดยต้องมีคำแนะนำการใช้งานในแต่ละหมวดหมู่ อาจมีทั้งคำบรรยาย สไลด์ นิยาม คำศัพท์ กราฟฟิก ภาพเคลื่อนไหว ภาพยนตร์ หรือวิดีโอ และส่วนเสริมอื่นๆ รวมถึงลิงค์ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งเสริมต่าง ๆ
- รูปแบบการสื่อสาร : ผู้เรียนสามารถสื่อสารกับผู้สอนได้ หรือสื่อสารกับบุคคลอื่นๆ ได้ โดยการสื่อสารด้านต่างๆ เช่น e-mail , webboard , chat , voice chat เป็นต้น
- รูปแบบผสม : การนำเอารูปแบบการเผยแพร่กับรูปแบบการสื่อสารเข้าด้วยกัน รูปแบบนี้มีประโยชน์มากกับผู้เรียนเพราะผู้เรียนจะได้ใช้ทรัพยากรที่มีในอินเทอร์เน็ตในลักษณะที่หลากหลาย
- รูปแบบห้องเรียนเสมือน : เป็นการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ โดยการร่วมมือระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน , ผู้เรียนกับผู้สอน หรือแม้กระทั่งร่วมมือกับสถาบันอื่นๆ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เน้นความสำคัญของกลุ่มที่จะร่วมมือกัน ผู้เรียนจะได้รับความรู้ใหม่ๆ จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลและ ข้อคิดเห็นโดยประกอบไปด้วยประมวลรายวิชา เนื้อหาในหลักสูตร รายชื่อแหล่งเนื้อหาเสริม กิจกรรมระหว่างผู้เรียน-ผู้สอน คำแนะนำและการให้ผลย้อนกลับ การนำเสนอในลักษณะสื่อมัลติมีเดียต่างๆ รูปแบบนี้จะทำให้ผู้เรียนได้ประโยชน์จากการเรียนโดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาและสถานที่
WBL
การออกแบบและการพัฒนาWeb Based Learning (WBL)นั้น ในการจัดทำรูปแบบนี้จะต้องมีการประยุกต์ใช้คุณสมบัติด้านต่างๆ ให้เข้ากับคุณสมบัติของอินเทอร์เน็ตเพื่อเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ ในมิติที่ไม่มีขอบเขตจำกัด ทั้งด้วยระยะทางและเวลาที่แตกต่างกันของผู้เรียน และเพื่อให้ผู้เรียนได้รับผลดีที่สุดในการเรียนรู้ ผู้จัดทำควรออกแบบให้มีป้ายกำกับการใช้งานในแต่ละส่วนอย่างชัดเจน โดยจะต้องออกแบบให้เว็บมีความน่าสนใจ น่าติดตาม และใช้งานได้อย่างสะดวก เพื่อผู้เรียนจะได้พัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งควรจะต้องบอกจุดประสงค์ในการจัดทำเว็บให้ชัดเจนและมีการจัดข้อมูลไว้เป็นหมวดหมู่ ภายใต้เมนูต่างๆ เช่น แผนการสอน เทคนิคที่ใช้ในการสอน สื่อการสอน การวัดและประเมินผล แหล่งความรู้ เว็บเชื่อมโยง (Web Links) โดยที่ผู้เรียนสามารถเลือกเข้าไปดูการให้คำนิยาม ความหมาย และบริบทต่างๆ ในแต่ละเมนูได้
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพัฒนาเพิ่มเติมในทุกเว็บที่ใช้เป็น WBL คือ คู่มือการใช้งาน หรือคำแนะนำในการเข้ามาเพื่อศึกษาหาความรู้ อีกทั้งควรพัฒนาสื่อแบบต่างๆ ให้เหมาะกับข้อมูลและเนื้อหาในเรื่องนั้นๆ เช่น บทความ สไลด์ สื่อมัลติมีเดีย กราฟฟิกเคลื่อนไหว หรือวิดีโอ เป็นต้น อีกทั้งในด้านการติดต่อสื่อสารควรให้มีการเข้าสู่ระบบ (Login) เพื่อเป็นสถิติในการเข้าใช้งาน ผู้เรียนสามารถติดต่อและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ เช่น e-mail , กระดานสนทนา (Webboard) เป็นต้น เพราะการเรียนรู้ประเภทนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามอัธยาศัยและสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองตลอดชีวิต
เพราะฉะนั้นการออกแบบและพัฒนา WEI-WBL จะต้องสามารถช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามวัตถุประสงค์ ในการใช้ภาษาก็ต้องสื่อสารให้เหมาะสมและชัดเจน ง่ายต่อการสื่อความ รวมถึงต้องเลือกทรัพยากรต่างๆ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและต้องพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินที่สามารถประเมินได้ตามจุดประสงค์ ดังนั้นเรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้เรียนด้วยตนเองอย่างแท้จริง
@@@@@@@@@@@@@@
1 comment:
นำ comments มาจากหน้าเก่าค่ะ
Piyawit said...
ได้ความรู้เป็นอย่างดี
April 28, 2011 5:16 PM
.................................
Sureerat said...
ได้ทราบถึงความสำคัญของการออกแบบและพัฒนา WBI และ WBL เพิ่มขึ้นมากจ๊ะ
April 28, 2011 7:01 PM
.................................
Piyawit said...
นี่คือการทำงานของระบบ "WBL-WBI"
April 28, 2011 8:17 PM
Post a Comment